วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Thai Brutal king สดุดีแด่ ราชา

คาระวะ แด่ ราชา  เราสาวก ยังคิดถึงท่านเสมอ



Hellstory Of Deathguy
แม้ว่าเรื่องราวของการสิ้นสุดของวง Brutal Death อย่าง Deathguy จะไม่ได้เป็นข่าวที่ชวนให้รู้สึกถึงสิ่งใดนักในปัจจุบัน แต่ทว่าเมื่อใดที่หยิบซีดียัดใส่เครื่องเล่นและกระหน่ำบทเพลงจากอัลบั้ม Concentrate The Annihilation พร้อมหยิบแพ็คเกจอาบเลือดขึ้นมาเชยชม ความอาวรณ์ที่มีวงดนตรีวงนี้ก็บังเกิดขึ้นอยู่ร่ำไป และเมื่อห้วงคำนึงแห่งความวิตถารยังคุกรุ่นสุมทรวงเช่นนี้ จะดีกว่าไหม ที่จะระบายความใคร่ออกมา แทนที่จะเก็บมมสั่งสมไว้ให้อัดอั้นตันใจ...

1998 เชื้อร้ายสองสายพันธุ์ Verapol (กีตาร์) และ Thanit (ร้องนำ) ได้ปล่อยผลงานอีพีแรกในนามชื่อวง Deathguy (DG) ออกมาในชื่ออัลบั้มว่า EP Introduction '98 ดนตรีคาบเกี่ยวระหว่าง Death/Thrash Metal โดยได้พลพรรคจาก Dark Oracle กลุ่ม underground ลือชื่อในสมัยนั้นช่วยเข็ญผลงานนี้ให้เป็นที่รู้จักในหมู่นั่งฟังเพลงหนัก กระโหลกเหล็กในบ้านเรา งานชุดนี้เขียนเนื้อร้องเป็นภาษาไทย ซาวนด์ก็ค่อนข้างจะเป็นแบบ underground sound ตามมีตามเกิด ไม่เลิศหรู แต่ก็ไม่เลวร้าย กระทั่งช่วงปี 1999 ทางวงก็ได้เติมเต็มสมาชิกเข้ามาอีก 2 คน คือ Nuttaphum (กีตาร์) and Suppakit (กลอง จากวง Annular Eclipse r.i.p.) และเมื่อสมาชิกครบครันในทุกตำเหน่งทางวงจึงเริ่มขึ้นเวทีสำหรับแสงสด ซึ่งหนึ่งในงานที่พวกเขาขึ้นไปชำเรานั้น มีรายชื่อของงาน "God Beheadind Live 2000" รวมอยู่ด้วยราวปลายปี 2000 ผลงานอัลบั้มชุดแรกของวงก็ได้ออกมากระหน่ำรูหูสาวก งานชิ้นแรกนี้ DG ใช้ชื่ออัลบั้มว่า The Secondary Quest ออกในรูปแบบ tape การปรากฏตัวในอัลบั้มแรกครั้งนี้ DG ขยับแนวดนตรีไปเป็น Power/Melodic Metal แทน

มิถุนายน 2001 การมาเยือนประเทศไทยของยอดวง Thrash จากเยอรมันอย่าง Sodom เป็นข่าวที่ฮือฮาและสร้างความสาแก่ใจให้แก่เมทัลเฮดในประเทศไทยเป็นอย่างสูง และด้วยจากการดังกล่าว DG ได้รับเชิญให้ร่วมในพิธีกรรมนี้ในฐานะวงเปิด และจากอานิสสงค์ของงานทำให้ชื่อของ DG เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ผลงานเก่าอย่าง EP Introduction '98 และอัลบั้มชุดแรก The Secondary Quest ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าและหมดลงไปในที่สุด และทิ้งช่วงห่างไม่นานนัก ด้วยความสามารถที่เข้าตาสังกัด Trinity Rec จากเกาะฮ่องกง ส่งผลให้ผลงานทั้ง 2 ชิ้นของวงได้รับการ release ใหม่อีกครั้งในรูปแบบซีดี ในชื่ออัลบั้มว่า The Legend of Romancer พร้อมทั้งเพิ่ม Bonus Track พิเศษอีกเพลง นั่นคือ The Beast เพลงใหม่ของวงที่ยังไม่มีบรรจุอยู่ในผลงานชุดใด และจากแทร็คดังกล่าว ทำให้ภาพลักษณ์ของวงเริ่มเปลี่ยนไปอีกครั้ง กลายเป็นก้าวย่างใหม่แห่งดนตรีสายพันธุ์โหด...

ทิ้งช่วงห่างไปไม่นานนัก DG ได้ตอกย้ำเส้นทางสายใหม่ของวง ด้วยการปล่อยเชื้อร้ายแห่งความขยะแขยงร่วมกับ Lacerate และ She Gore (โปรเจ็คท์ของ Thanit) SIAMESE BRUTALISM ATTACK!! 3 WAY Split Promo CD คือชื่อผลงานดังกล่าว โดยในส่วนของ DG นั้น มีด้วยกัน 2 เพลง คือ Beheader และ The Beast เป็นการบอกแก่สาวกของวงว่า พวกเขาได้เลือกเดินในเส้นทางที่หฤโหดกว่าเดิม
ปลายปี 2002 DG ได้นำ The Beast มาบันทึกเสียงใหม่ และปล่อยแผ่น The Beast Zingle Promo CD ให้สาวกได้เก็บสะสม ต่อจากนั้นไม่นาน ช่วงปี 2003 DG เหลือสมาชิกเพียง 3 คน เนื่องจากการการลาออกของ Nattaphom แต่นั้นหาใช่อุปสรรคใดๆ DG ยังเดินหน้าทำเพลงต่อไป

กระทั่งล่วงเข้า กันยายน 2004 (วันที่ 2) ประวัติศาสตร์ของวงอันเดอร์กราวนด์เมทัลไทยก็ได้จารึกชื่อของวง DG ไว้ในทำเนียบอีกหนึ่งวงดนตรีที่ได้ไปร่วมงานเทศกาลดนตรีอันเดอร์กราวนด์เมทัลนอกประเทศอีกวงหนึ่ง ในเทียบเชิญครั้งนี้ DG ได้ขยายอาณาเขตความป่าเถื่อนไปยังประเทศ Singahell ในงาน IJ METAL FEST 2004 ครั้งนี้ DG ได้ร่วมเขย่าเวทีกับวง Vrykolakas, Nechbeyth, Abattory, Jahanam Corpse ฯลฯ และหลังจากกลับมาจากการทัวร์ได้ไม่นานนัก เวลาแห่งการรอคอยก็สิ้นสุดลง เมื่อ DG ได้ปล่อยเชื้อร้ายลำดับที่ 2 ออกมา Concentrate The Annihilation กับความป่าเถื่อนไร้ปราณีในรูปแบบดนตรี Brutal Death และงานในชุดนี้ ยังได้ Vrykoblast (Singahell) ของ Andy นักร้องนำและสหายจากวง Vrykolakas เป็นสังกัดรองรับงานอีกด้วย

หลังจากที่ DG ได้ปล่อยผลงานชวนสะอิดสะเอียนลำดับที่ 2 ออกไป วงการอันเดอร์กราวนด์ในไทยก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้น เริ่มมีการรวมตัวของกลุ่มนักดนตรีเฉพาะแนว และกลุ่มที่น่าจับตามองมากที่สุดในช่วงนั้น เห็นจะหนีไม่พ้นกลุ่ม Siamese Brutalism และแน่นอนว่า DG ก็คือหนึ่งในวงที่ร่วมกลุ่มด้วย และทางกลุ่มก็ได้ปล่อยผลผลิตชิ้นแรกออกมา Siamese Brutalism Assault!! 4 ways split คือชื่อของผลงานดังกล่าว จากการรวมตัวของ 4 วงดนตรีสุดวิปริตของบ้านเรา อย่าง Lacerate, Agood Day for Killing, Deathguy และ She Gore โดยในอัลบั้มนี้ Deathguy ได้ส่งเพลงใหม่ออกมา 3 เพลง ได้แก่ Rejuvenated by Hypophysis, Chronic Excretal Addiction และ Necro-linguistic Programming

13 ต.ค. 2005 วันแห่งความภูมิใจของสยามบรูทัลลิสต์ก็บังเกิดขึ้นอีกหน เมื่อ DG ได้รับเชิญให้ไปแสดงความป่าเถื่อนยังประเทศฮ่องกง ครานี้พวกเขาได้ไปเยียบเวที Noas’s Ark Extream Fest 2005 แต่คงไม่มีใครคิดว่าหลังจากเสร็จศึกครั้งนี้แล้ว เวลาแห่งการสิ้นสุดจะมาถึง

11 ม.ค. 2006 DG ได้ทิ้งข้อความในเวปไซต์ของวง (http://www.deathguy.cjb.net/) ไว้ว่า DEATHGUY is end... after back from HK before the end of 2005. Thanit decide to disappear from the band to make responsibility of his important subject, Verapol and Zuppakit decide to end the name of DEATHGUY to bury under the rotten ground, back to soil, dissolve in water, melt to lava, dehydrate to the air, then 7 years story of 'DEATHGUY' end up here, we invite you to the last death ceremony to sign death book and leave your message to three of them, who 'll never back into this name... Fairwell...กลายเป็นการปิดตำนานความวิปริตอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด...

Official
http://www.metal-archives.com/band.php?id=10282

Akavit Terahdit
Rock & Roll - Sex - Beer

Credit : CTD ZINE ISSUE # 32

1. Hell Dominion (Reign Beyond Suffering)
2. Degust The Blood (Sadistic Cannibal Meal)
3. Anathematic Damnation (The Fertilization of Damn)
4. Beheader (Human Head Collection)
5. Necronivora (Silent Murderous Supremacy)
6. Awake From Within (Cardiac Excavation)
7. Tyrant (Decaying of All Civilization)
8. The Beast (Characteristic of Devourer)
9. Cannibal Lust (Impetigo Cover)
 
  www.houseofnoise.tk ต้องไช้อันนี้เท่านั้น

ThaiLand UnderGround เพื่อเมตัลเลือดไทย

The Darkest Romance 6 Song [2010 - 2011]







1. The Darkest Romance - เสียงกระซิบกับเสียงตะโกน (Whisper and Scream) (4:18)
2. The Darkest Romance - หมากับเงา (The Dog and The Reflection) (5:58)
3. The Darkest Romance - Before And After (Demo) (2:49)
4. The Darkest Romance - ความจริงของความจริง (The Truth of Truth) (5:10)
5. The Darkest Romance - หลับตา (Close The Eyes) (4:59)
6. The Darkest Romance - Open Your Eyes (feat. Ball Death Thesis) (3:40)



 

pop punk / post hardcore/ รวมๆ กันไปนะ จร้า

Sleeping With Sirens - Let’s Cheers To This [2011]



01. Do It Now Remember It Later (3:23)
02. If You Can't Hang (4:10)
03. Who Are You Now (4:17)
04. Four Corners and Two Sides (3:19)
05. A Trophy Fathers Trophy Son (3:43)
06. Fire (3:48)
07. Tally It Up, Settle The Score (3:36)
08. Your Nickle Aint Worth My Dime (2:48)
09. Postcards and Polaroids (3:15)
10. All My Heart (4:39)
11. Let's Cheers To This (3:40)




Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...